เจาะลึก สมาร์ทโฟน Huawei P20 Series

0
1878

เป็นที่ ฮือฮา ! Huawei P20 Series แซงหน้า iPhone X และ Galaxy S9 Plus ขึ้นแท่นสมาร์ทโฟนที่ดีสุดในโลก!

https://www.techoffside.com

ซึ่ง “ของมันต้องมี” จริงตามที่หลายคนพูดถึงหรือไม่? IT by Choice ได้เกาะติดสถานการณ์งานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้ ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ (20.00 น. เวลาประเทศไทย) และเราจะขออาสามาสรุปเป็นข้อๆ ให้ท่านได้ชมกัน

ถ้าอยากรู้ว่ามีดีตรงไหน ดีไซน์สวยงามอย่างไร เชิญชมไปพร้อมกัน…!

1. เปลี่ยนสีเมื่อกระทบแสง

อย่างแรกที่ถึงพูดถึงกันอย่างมากคือสี และดีไซน์ เพราะคราวนี้หัวเว่ยได้ก้าวออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง ในการปฏิวัติดีไซน์ของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่นี้

ด้วยตัวเครื่องที่ทำจากโลหะและกระจก ส่งผลให้ดูหรูหรากว่ารุ่นที่ผ่านมาหลายเท่า ทั้งตัวเครื่องยังโค้งมนกว่าเดิม และที่พีคไปกว่านั้นคือเป็นครั้งแรกที่มีแบรนด์ทำสี Twilight และ Pink Gold ผ่านการเคลือบแบบ NVMC ทำให้เกิดการหักเหแสงที่มาตกกระทบ ทำให้ได้เฉดสีที่เปลี่ยนไปมายามต้องแสง เริดดดดดด!!

2. ขนกล้องหลังมา 3 ตัวจ้า

ทีแรกก็ไม่เข้าใจว่าทำไมรุ่น P20 Pro ต้องมีกล้องหลังจาก Leica ถึง 3 ตัว แต่พอหัวเว่ยได้บรรยายถึงสรรพคุณแล้วก็ร้อง…อ๋อ!

เพราะประกอบไปด้วยเซนเซอร์รับแสงแบบอาร์จีบี (RGB Sensor) ขนาด 40 ล้านพิกเซล เซนเซอร์รับแสงสีขาวดำ (Monochrome Sensor) ขนาด 20 ล้านพิกเซล และเซนเซอร์รับแสงสำหรับการถ่ายภาพจากระยะไกลขนาด 8 ล้านพิกเซล (Telephoto Lens)

ด้วยความที่มีความกว้างรูรับแสงที่ f/1.8 1.6 และ 2.4 ช่วยให้บันทึกภาพได้สว่าง คมชัด เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน มีระบบซูมแบบออพติคัลจาก Leica 3 เท่า และระบบซูมแบบไฮบริดถึง 5 เท่า (สำหรับการถ่ายระยะไกล) และที่สำคัญคือมีเซนเซอร์รับภาพขนาด 1/1.7 นิ้ว ช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี

อย่างงี้ก็สามารถไปถ่ายเวทีคอนเสิร์ตที่อยู่ไกลๆ ได้สบาย ช้อยแฮปปี้!

ไม่หมดเท่านั้น เพราะตอนนี้ P20 Pro คว้าตำแหน่งเทพแห่งกล้องบนสมาร์ทโฟนไปแล้ว มีไฮไลต์แค่นั้นคงน้อยไป จึงเอากล้องหน้าขนาด 24 ล้านมาด้วย และเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยี AI …บอกได้คำเดียวว่า เวรี่กู้ด!

3. ความฉลาดของ AI

P20 ทั้ง 2 รุ่น ใช้หน่วยประมวลผล Kirin 970 พร้อมทั้งนำเทคโนโลยี AI มาช่วยให้การถ่ายภาพได้เหมาะสมกับวัตถุที่ถ่ายมากที่สุด และยังมีคุณสมบัติใหม่ ได้แก่ การจับโฟกัสตามวัตถุแบบ 4 มิติ (4D Predictive Focus) สามารถจับและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของวัตถุและจับโฟกัสได้โดยอัตโนมัติ

ส่วนใครชอบถ่ายเซลฟี่ ก็มีเทคโนโลยี 3D Portrait Lighting ช่วยให้ถ่ายเซลฟี่ได้สวยเป็นธรรมชาติ เก็บรายละเอียดได้ครบถ้วน และถูกต้องตามองค์ประกอบแบบ 3 มิติ

P20 มีกำหนดวางขายในประเทศไทยวันที่ 6 เมษายน 2560 นี้ โดยที่รุ่น P20 มีราคาอยู่ที่ 649 ยูโร (ประมาณ 25,000 บาท) ส่วน P20 Pro ราคา 899 ยูโร (ประมาณ 34,700 บาท) มีให้เลือกหลายสี ได้แก่ Black, Midnight Blue, Pink Gold และ Champagne Gold และมีสีใหม่อย่าง Twilight

ก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีราคาสูงพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้มา…ก็ต้องให้คุณเป็นผู้ตัดสินใจว่าคุ้มค่าหรือไม่?

ขอบคุณที่มา : ไทยรัฐ

ทิ้งคำตอบไว้

Please enter your comment!
Please enter your name here